ดนตรีในสังคมและวัฒนธรรมของไทย

 

1.  บทบาทและอิทธิพลของดนตรีในสังคมไทย

            ในชีวิตประจำวันของคนในสังคมไทย  ผูกผันอยู่กับศิลปะตลอดเวลา  ดนตรีก็มีอิทธิพลสอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวัน  เพราะดนตรีเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก  ความคิดจินตนาการของผู้คน  จากศิลปินถึงชุมชน ให้เกิดความสนุกสนาน  ความซาบซึ้งใจ ความตื่นเต้น  ความคึกคักหึกเหิม  ในการดำเนินชีวิต  ดนตรีจึงมีคุณค่าในสังคมไทย ดังนี้

1.            ดนตรีให้ความสนุกสนาน ผ่อนคลายความเครียด ปลุกเร้าอารมณ์และจิตใจให้มีความสุข มีสุขภาพจิตดี

2.            ดนตรีช่วยเสริมสร้างความสามัคคีของคนในสังคมให้มีความรักชาติ  ทำให้ชาติเป็นสังคมที่สงบสุข  เช่น เพลงปลุกใจ  เพลงชาติไทย

3.            ดนตรีช่วยสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิต  สภาพสังคม การดำเนินชีวิตของชุมชนในสมัยต่างๆ เช่น เพลงในน้ำมีปลา – ในนามีข้าว  กล่าวถึงความสุข  ความอุดมสมบูรณ์ของชาติไทยในกรุงสุโขทัย  เพลงเต้นกำรำเคียว  บ่งบอกถึงความสนุกสนานของชาวบ้าน  ชาวนาในการประกอบอาชีพ  เป็นต้น

4.            ดนตรีเป็นเครื่องบรรเลงในพิธีกรรมต่างๆในสังคมไทย มีพิธีกรรมต่างๆมากมายทั้งที่เป็นงานมงคล และการประกอบพิธีกรรมของคนตายที่เรียกว่างานศพ  ดนตรีก็มีบทบาทในพิธีกรรมต่างๆของคน  ตั้งแต่เกิดจนตาย โดยเฉพาะพิธีกรรมทางศาสนา  ทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิน่าเชื่อถือ สร้างอารมณ์สะเทือนใจในอารมณ์ได้อย่างดี  เช่น  เพลงสาธุการ  ใช้ในเวลาจุดธูปเทียนบูชาพระ  ผู้ฟังจะรู้สึกได้ถึงความขลังความศรัทธา  การทำพิธีพืชมงคลก็มีการบรรเลงดนตรีประกอบพิธีกรรมทางพราหมณ์เพื่อความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน

5.            ดนตรีไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทย  แสดงให้เห็นว่าไทยเป็นประเทศที่มีศิลปวัฒนธรรม  มีความเจริญรุ่งเรืองตลอดมา

6.            ดนตรีไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้ลูกหลานได้มีเครื่องบันเทิงใจ  สมควรที่คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้  อนุรักษ์และสืบทอดให้คงอยู่และเจริญรุ่งเรืองต่อไป

 

 

องค์ประกอบของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม

2.1 องค์ประกอบของดนตรีไทย

            ลักษณะสำคัญในองค์ประกอบของดนตรีไทยที่แสดงให้เห็นวัฒนธรรมของชาติได้แก่

 

1.            องค์ประกอบของเครื่องดนตรีและเสียงของเครื่องดนตรี

เครื่องดนตรีไทยแบ่งเป็น  4 ประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะที่แตกต่างกันตามการเกิดของเสียงเพราะใช้วัสดุในการทำแตกต่างกัน เมื่อนำมาบรรเลงร่วมกันจึงเกิดเป็นวงดนตรีที่ทำให้เกิดบทเพลงที่ไพเราะ

2.            องค์ประกอบของทำนองเพลง

เพลงไทยที่มีทำนองเพลงมากมาย หลากหลายมีความแตกต่างกันที่ทำนองทั้งช้าและเร็ว และยังมีเพลงภาษา ซึ่งแต่ละเพลงให้ความรู้สึกและอารมณ์แตกต่างกันไป  มีทั้งเพลงเศร้า เพลงรักหวาน เพลงสนุกสนาน และทำนองเพลงที่บงบอกถึงความเป็นเชื้อชาติที่เรียกว่า “เพลงออกภาษา”

3.            องค์ประกอบเรื่องการใช้ศัพท์สังคีต

ศัพท์สังคีต คือศัพท์ที่ใช้ในทางการบรรเลงและขับร้อง เพลงไทยมีความหมายเฉพาะในตัวเอง  เช่น ทอด เถา ตับ เอื้อน คลอ   คลอ (หมายถึงการขับร้องและบรรเลงพร้อมกัน)  ทอด (หมายถึงการลดเสียงของการขับร้องหรือบรรเลงเพื่อให้มีการขับร้องหรือบรรเลงต่อด้วยความเหมาะสม) เป็นต้น

4.            องค์ประกอบของดนตรีที่บรรเลงในโอกาสต่างๆ

วงดนตรีไทย แบ่งตามลักษณะของเครื่องดนตรี ได้แก่ วงปี่พาทย์ วงเครื่องสาย วงมโหรี และวงดนตรีพื้นบ้านในท้องถิ่น ในแต่ละวงจะมีการบรรเลงที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของโอกาสที่ใช้บรรเลง เช่น วงปี่พาทย์ใช้ประกอบการแสดงโขน ละคร ลิเก วงเครื่องสายใช้บรรเลงในงานแต่งงาน  วงปี่พาทย์มอญ นิยมใช้ในการบรรเลงงานศพ วงดนตรีพื้นเมือง และวงดนตรีพื้นบ้าน ก็บรรเลงในโอกาสที่จัดงานในท้องถิ่น ตามเทศกาลต่างๆ เป็นต้น

5.            องค์ประกอบของบทเพลงที่ใช้ในโอกาสต่างๆ

บทเพลงและทำนองเพลงไทยมีเนื้อหาและท่วงทำนอง ตามอารมณ์เพลงที่หลากหลาย เช่นเดียวกับการบรรเลงของวงดนตรี ซึ่งแต่ละบทเพลงจะใช้บรรเลงในโอกาสที่แตกต่างกันตามโอกาสที่เหมาะสม เช่น เพลงมอญร้องไห้ ใช้ขับร้องและบรรเลงในงานศพ  เพลงลาวดวงเดือน นิยมขับร้อง และบรรเลงก่อนปิดงาน  บทเพลงและทำนองเพลงพื้นบ้านก็สื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตชุมชนและท้องถิ่นเป็นต้น

 

 

 

2.2 องค์ประกอบของดนตรีสากล

            วัฒนธรรมของดนตรีสากลหรือดนตรีตะวันตก มีลักษณะสำคัญทางองค์ประกอบดังนี้

 

1.             การสร้างตัวโน้ตและสัญญาลักษณ์ทางดนตรี  เป็นเครื่องหมายที่ให้ผู้ศึกษาเรียนรู้ทางดนตรี  มีความเข้าใจที่จะปฏิบัติเสียงทางดนตรีได้อย่างถูกต้องแบ่งเป็นความหมายของเสียง  ระดับเสียงตัวโน้ต ชั้นคู่เสียง บันไดเสียงต่างๆ เครื่องหมายกำหนดจังหวะ กุญแจประจำหลักเสียง เป็นต้น ตัวอย่าง เพลงที่มีเสียงสูงจะใช้บันไดเสียง c major  เป็นต้น

2.            องค์ประกอบของเสียง คือลักษณะเฉพาะของเสียงที่ใช้ในการบรรเลงดนตรี ความกว้างของเสียงของเครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงลักษณะที่แตกต่างกันของสียงทำให้เกิดบทเพลงที่ไพเราะตามลักษณะที่พัฒนาขึ้นมาเป็นวัฒนธรรมดนตรีของสากล

3.            องค์ประกอบด้านโครงสร้างของบทเพลง  จะเห็นได้ถึงความแตกต่างในโครงสร้างของบทเพลงของไทยและสากล  วัฒนธรรมการขับร้องและบรรเลงเพลงมีความแตกต่างกันเช่น เพลงสากลมีบทเพลงประสานเสียงมีลักษณะของการออกเสียงที่กว้างและลึกกว่าเพลงไทย  เป็นความยิ่งใหญ่ของจำนวนเครื่องดนตรีและเสียงของผู้ขับร้อง

4.            องค์ประกอบเรื่องแบบแผนของเพลง  บทเพลงสากลมีแบบแผนการบรรเลงหลายประเภท  เช่น  เพลงประสานเสียง  2  แนว  ที่มีการร้องแบบ  ราวด์ (Round)  และการร้องแบบ แคนนอน  (Canon) เป็นต้น

 

ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า  ดนตรีเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตของคนในสังคมไทยอย่างจะแยกกันไม่ออก ดนตรีสอดแทรกเข้าไปในการดำเนินชีวิตของคนไทยจนเกิดเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน เรียกว่าวัฒนธรรมและสืบทอดต่อกันมาหลายร้อยปี  ดนตรีจึงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของสังคม