
ประวัติกีฬาบาสเกตบอลต่างประเทศ
กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาประเภททีม มีผู้เล่นฝ่ายละ ๕ คน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำ ลูกบาสเกตบอลไปโยนลงห่วงประตู
ของฝ่ายตรงกันข้ามให้ได้มากที่สุดโดยมีทักษะการเล่นได้แก่ การส่ง – รับลูกการเลี้ยงลูกและการยิงประตู
กีฬาบาสเกตบอลมีกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเริ่มจาก ดร. เจมส์ เอ เนสมิท (JamesA.Naismith) ได้
คิดขึ้นเพื่อเล่นในโรงพลศึกษาของโรงเรียนฝึกอบรม ของสมาคมวายเอ็มซีเอนานาชาติ(International Young Men's Christian
Association Training School) ที่เมืองสปริงฟีลด์ มลรัฐแมสซาซูเซตส์ ในช่วงที่มีหิมะตกเมื่อ ค.ศ. ๑๘๙๑ (พ.ศ. ๒๔๓๔) โดยใช้
ตะกร้าลูกพีช ๒ ใบแขวนเป็นประตูจึงทำให้กีฬานี้ได้ชื่อว่าบาสเกตบอล (Basketball) การเล่นครั้งนั้นใช้ ลูกฟุตบอลเป็นลูกบอล
มีผู้เล่นทั้งหมด ๑๘ คน แบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายละ ๙ คน มีกฎการเล่น ๔ ข้อ คือ
๑. ห้ามถือลูกเคลื่อนที่
๒. ห้ามมิให้ผู้เล่นปะทะตัวกัน
๓. ประตูอยู่ระดับศีรษะและขนานพื้น
๔. ผู้เล่นจะถือลูกบอลนานเท่าใดก็ได้ และผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะต้องไม่ถูกตัวผู้เล่น
ต่อมามีการปรับปรุงการเล่นเป็น ๑๓ ข้อโดยลดผู้เล่นเหลือฝ่ายละ ๕ คน เนื่องจากในการเล่นเกิดการปะทะกันเพราะสนาม
แคบ ดังนั้นจึงทำให้เกมการเล่นสมบูรณ์ยิ่งขึ้นทั้งยังลดการปะทะกันอีกด้วยในปัจจุบันกติกาการเล่นดังกล่าวยังคงปรากฏอยู่ ณ
โรงพลศึกษา เมืองสปริงฟีลด์ คือ
๑. การโยนลูกจะใช้มือเดียวหรือสองมือโดยไปในทิศทางใดก็ได้
๒. การตีลูกจะใช้มือเดียวหรือสองมือตีไปทิศทางใดก็ได้
๓. ผู้เล่นจะพาลูกบอลวิ่งไม่ได้และต้องส่งตรงจุดรับลูกบอลยกเว้นขณะที่วิ่งมารับลูกด้วย ความเร็วให้เคลื่อนไหวได้เล็ก
น้อย
๔. ต้องจับลูกบอลด้วยมือทั้งสองข้างโดยไม่ให้ใช้ส่วนอื่นของร่างกาย
๕. การเล่นจะชน คือผลักหรือทำให้ฝ่ายตรงข้ามล้มถือว่าฟาวล์หนึ่งครั้งถ้าฟาวล์ครั้งที่สองให้ออกจากการแข่งขันจนกว่า
จะมีผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยิงประตูได้จึงจะกลับมาเล่นได้อีก ถ้าเกิดการบาดเจ็บขณะเล่นไม่อนุญาตให้มีการเปลี่ยนตัว
๖. การทุบด้วยกำปั้นถือว่าผิดกติกาให้ปรับเช่นเดียวกับ ข้อ 5
๗ . ทีมใดทำฟาวล์ติดต่อกัน 3 ครั้ง ให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ประตู
๘. การได้ประตูทำได้โดยการโยนหรือปัดลูกบอลให้ขึ้นไปค้างบนตะกร้า
๙. เมื่อลูกบอลออกนอกสนามผู้เล่นนที่จับลูกบอลคนแรกเป็นผู้ทุ่มลูกเข้ามาเล่นต่อ กรณีที่ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครก่อนหลัง
ผู้ตัดสินจะส่งลูกบอลเข้ามาให้ผู้ส่งจะต้องส่งลูกบอลเข้าสนามภายใน 5 วินาที ถ้าช้ากว่านี้จะให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามส่งแทน ถ้าผู้
เล่นถ่วงเวลาการเล่นให้ปรับฟาวล์
๑๐.ผู้ตัดสินมีหน้าที่ตัดสินผู้ฟาวล์ และลงโทษผู้เล่น
๑๑.ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินลูกบอลออกนอกสนามและรักษาเวลาบันทึกจำนวนลูกที่ได้และทำหน้าที่ทั่วไปของผู้ตัดสิน
๑๒.การเล่นแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที
๑๓.ฝ่ายที่ทำประตูได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะหัวหน้าทีมจะตกลงกันถ้าคะแนนเท่ากันเพื่อต่อเวลาแข่งขัน ถ้าฝ่ายใดทำประตู
ได้ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ
กติกานี้ใช้มาจนถึง ค.ศ. ๑๙๓๗ (พ.ศ. ๒๔๘๐) จึงได้ปรับปรุงแก้ไขครั้งใหญ่เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ ๑๑
ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศสเยอรมนี และใน ค.ศ. ๑๙๓๙ (พ.ศ. ๒๔๘๒) ดร.เจมส์ เอ. เนสมิท ก็เสียชีวิตลง ก่อน จะได้เห็นความ
สำเร็จ และความยิ่งใหญ่ในกีฬาบาสเกตบอลที่เขาคิดค้นขึ้นต่อมาจากนั้นกีฬาบาสเกตบอลก็แพร่หลายพัฒนาการเล่น เป็นที่นิยม
อย่างรวดเร็วเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกีฬาบาสเกตบอลในระดับนานาชาติ ได้แก่ สหพันธ์บาสเกตบอล
นานาชาติ (ชื่อภาษาอังกฤษ International Amateur Basketball Federation ชื่อภาษาฝรั่งเศส Fe'de'ration International de
Basketball Amateur ใช้ชื่อย่อว่า FIBA) นอกจากนี้ยังมีองค์กรในระดับทวีป เช่น สมาพันธ์บาสเกตบอลเอเชีย (Asian Basketball
Confederation หรือ ABC) เป็นต้น
ประวัติกีฬาบาสเกตบอลในประเทศ
ประเทศไทยเริ่มเล่นกีฬาบาสเกตบอลกันตั้งแต่เมื่อใดสมัยใดยังไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างแน่ชัด แต่เท่าที่ค้นคว้าและมีหลัก
ฐานยืนยันว่าในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ นายนพคุณ พงษ์สุวรรณ อาจารย์สอนภาษาจีนได้แปลกติกา การเล่นบาสเกตบอลจากภาษา
อังกฤษเป็นภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรก
พ.ศ ๒๔๗๗ กรมพลศึกษาได้จัดการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลระดับนักเรียนขึ้นเป็นครั้งแรกสมัยที่ น.อ หลวงศุภชลาศัย
ร.น ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษา
พ.ศ ๒๔๙๕ ได้มีการจัดการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลระหว่างนักเรียนหญิงและการแข่งขันระหว่างประชาชนทั่วๆไป
พ.ศ. ๒๔๙๖ ได้มีการจัดตั้งสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยและได้เป็นสมาชิกสมาคมบาสเกตบอลระหว่างประเทศ
ตั้งแต่ วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๔๙๖
ปัจจุบันกีฬาบาสเกตบอลถูกบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอนแทบทุกระดับการศึกษาคือตั้งแต่ระดับประถมมัธยม และ
อุดมศึกษานอกจากนี้ยังมีการแข่งขันอยู่ตลอดเวลาองค์กรสำคัญที่ส่งเสริมและจัดการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลในประเทศไทย
ได้แก่ สมาคมบาเกตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ กรมพลศึกษากรุงเทพมหานครการกีฬาแห่งประเทศไทยทบวง
มหาวิทยาลัย (กีฬามหาวิททยาลัย) กองทัพ (กีฬาเหล่าทัพ) กองทัพอากาศ (กีฬานักเรียน) สถาบันการศึกษาทั่วไป
ประโยชน์ของการเล่นกีฬาบาสเกตบอล
กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ทำให้ผู้เล่นได้รับประโยชน์ดังนี้
๑. ช่วยพัฒนาส่งเสริมสมรรถภาพด้านต่าง ๆ ได้แก่ ร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคมแก่บุคคล
๒. ช่วยพัฒนาส่งเสริมกลไกการเคลื่อนไหวของร่างกาย (motor skills) ให้ทำงานประสาน กันดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นมือ เท้า
สายตาให้เคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้อง
๓. เป็นกิจกรรมนันทนาการสำหรับพักผ่อนคลายความตึงเครียดแก่ผู้เล่นและผู้ชม
๔. ช่วยฝึกการตัดสินใจและรู้จักคิดแก้ปัญหาตลอดจนมีสมาธิที่ดี
๕. ช่วยฝึกให้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้จักแพ้ รู้จักชนะและรู้จักให้อภัย
๖. ใช้เป็นสื่อนำในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและส่วนรวม
๗. ใช้เป็นสื่อนำในการจัดการกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา
๘. ผู้เล่นที่มีความสามารถจะทำชื่อเสียงให้แก่ตัวเองวงศ์ตระกูลและประเทศชาติ
๙. เป็นวิชาชีพด้านหนึ่งสำหรับงานกีฬา เช่น การแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลอาชีพ เป็นต้น
ความปลอดภัยในการเล่นกีฬาบาสเกตบอล
การเล่นกีฬาบาสเกตบอลเป็นการเล่นหลายคนและเล่นด้วยความรวดเร็วต้องใช้ความคล่องตัวสูงในสนามที่มีเนื้อที่จำกัด
ฉะนั้นผู้เล่นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาของการเล่นเพื่อความปลอดภัยในการเล่นกีฬาบาสเกตบอล
ผู้เล่นจึงควรมีหลักปฏิบัติดังต่อไปนี้
๑. ควรมีสภาพร่างกายพร้อมที่จะเล่นไม่มีโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอันตรายจากการออก กำลังกาย
๒. ก่อนการเล่นควรตรวจสภาพของสนามให้เรียบร้อยมั่นคง แข็งแรง พื้นสนามต้องเรียบไม่ลื่นไม่มีหลุมบ่อไม่มีสิ่งกีด
ขวาง เสาและห่วงประตูอยู่ในสภาพใช้งานได้
๓. ต้องแต่งกายชุดเล่นกีฬาให้เหมาะสมกับการเล่นบาสเกตบอล สวมเสื้อ กางเกง ถุงเท้า รองเท้า ที่ไม่หลวม หรือคับเกินไป
๔. ลูกบอลต้องไม่อ่อน หรือแข็งเกินไป
๕. ในการเล่นต้องปฏิบัติตามกติกาโดยเคร่งคัด ไม่ล้อเลียนหรือกลั่นแกล้งเพื่อนระหว่าง การเล่นหรือขณะฝึกซ้อม
๖. ไม่เล่นหรือฝึกซ้อมจนเกินกำลังความสามารถของร่างกาย
๗. ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยของผู้เล่นอื่นและเพื่อป้องกันอันตรายขณะรับลูกบอล
๘. ควรฝึกจากทักษะที่ง่ายไปหาทักษะที่ยากหรือฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป
๙. ไม่เล่นในที่มืดหรือแสงสว่างไม่เพียงพอ
๑๐.ไม่ควรฝึกในสนามกลางแจ้ง แดดร้อนจัด หรือฝนตกฟ้าร้อง
๑๑.ไม่ใส่เครื่องประดับเช่น นาฬิกา แหวน สร้อยข้อมือ สร้อยคอหรือเข็มขัด เพราะจะเป็นอันตรายแก่ตนเองและผู้อื่นได้
๑๒.ไม่ควรใส่แว่นตาระหว่างเล่นถ้าจำเป็นควรใช้แว่นที่เป็นพลาสติกหรือชนิดที่ไม่แตกและให้มียางรัดติดกับท้ายทอยด้วย
๑๓.ในกรณีที่จะมีการแข่งขันควรฝึกซ้อมให้ร่างกายมีสมรรถภาพดีพร้อมที่จะเข้าแข่งขันได้
๑๔.ถ้าตนเองไม่ได้ฝึกซ้อมหรือฝึกซ้อมไม่เพียงพอไม่ควรลงแข่งขันโดยเด็ดขาด
มารยาทของผู้เล่นกีฬาบาสเกตบอลที่ดี
๑. มีความรู้เรื่องระเบียบและกฎกติกาการเล่น
๒. แต่งกายด้วยชุดที่เหมาะสมต่อการเล่นหรือการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอล
๓. เล่นกีฬาด้วยความสนุกสนานและมีมารยาท มีความสุภาพทั้งกิริยาท่าทางตลอดจนคำพูด
๔. ให้เกียรติและเชื่อฟังยอมรับคำตัดสินของผู้ตัดสิน
๕. มีน้ำใจนักกีฬา รู้จักแพ้ รู้จักชนะ รู้จักให้อภัย
๖. เป็นผู้ที่ตรงต่อเวลา
๗. ไม่ควรดูถูกความสามารถผู้อื่นจะด้วยวาจาหรือท่าทาง
๘. ควรแสดงความยินดีและชมเชยเมื่อผู้เล่น เล่นได้ดี
๙. ควรเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้เล่นบ้างเมื่ออุปกรณ์มีจำกัด
๑๐. ไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการยั่วยุหรือกลั่นแกล้งผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม
๑๑. ต้องเล่นตามระเบียบตามกติกาที่กำหนดไว้
๑๒. เชื่อฟังคำสั่งของหัวหน้าทีมหรือผู้ฝึกสอนและต้องปฏิบัติตาม
๑๓. มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ตนได้รับมอบหมาย
๑๔. รู้จักระงับอารมณ์เมื่อเกิดการยั่วยุจากฝ่ายตรงข้าม
๑๕. ไม่ครอบครองลูกบอลแต่เพียงผู้เดียวต้องแจกจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมบ้าง
๑๖. เมื่อเล่นกีฬาแพ้หรือชนะไม่ควรดีใจหรือเสียใจจนเกินไป
๑๗. การเล่นกีฬาต้องเล่นอย่างสุดความสามารถไม่ว่าตนเองจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะ
๑๘. หลังจากการแข่งขันแล้วไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะจะต้องฝึกซ้อมให้ดียิ่งขึ้น
๑๙. มีความตั้งใจในการฝึกซ้อมและมีความอดทน
๒๐. ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นในขณะฝึกซ้อมหรือแข่งขัน
๒๑. หลังจากฝึกซ้อมแล้วต้องเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
ที่มา : http://www.kruchai.net/histhory_Bas.html
