<< Go Back

            ฝิ่น เป็นยาเสพติดให้โทษที่สำคัญชนิดแรกที่แพร่เข้ามาสู่ประเทศไทย แต่จะเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดไม่ ปรากฏหลักฐานยืนยันจากการสันนิษฐานทางประวัติศาสตร์ น่าเชื่อว่าคนไทยได้รับอิทธิพลถ่ายทอดเกี่ยวกับเรื่องฝิ่นมาจากชาวจีน ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เนื่องจากมีสำเภาจีนเดินทางบรรทุกสินค้าเข้ามาค้าขายกับคนไทยจนเป็นที่นิยมในกรุงศรีอยุธยา จนสืบเนื่องมาถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น  ก็ยังคงมีการจำหน่ายและเสพฝิ่นกันอยู่อย่างแพร่หลาย  โดยรัฐบาลเพียงแต่เข้มงวดในเรื่องการควบคุมภาษีฝิ่นเท่านั้น แต่ยังมีคนไทยลักลอบซื้อขาย และสูบฝิ่นกันอยู่จำนวนมาก

            ฝิ่นเป็นพืชล้มลุกขึ้นในที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,000 ฟุตขึ้นไป เป็นยาเสพติดที่เป็นต้นตอของยาเสพติดร้ายแรง เช่น มอร์ฟีน เฮโรอีน และโคเดอีน นอกจากประเทศไทยจะประสบปัญหาการลักลอบค้าและการลำเลียงฝิ่นตาม แนวชายแดนจากประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังมีการลักลอบปลูกฝิ่นในประเทศไทย โดยใน ปี 2541/2542 มีพื้นที่ปลูกฝิ่นประมาณ 9,007 ไร่ ลดลงจากปี 2540/2541 ประมาณ 279 ไร่ กองทัพบกและตำรวจภูธรได้เข้าปฏิบัติการตัดฟันทำลายไร่ฝิ่น 5,051 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 56.08 ของพื้นที่ปลูกฝิ่นทั้งหมดในประเทศ พื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่นมาก ได้แก่ พื้นที่ อ.อมก๋อย อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ อ.ปาย อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โดยมีการลักลอบปลูกหลายครั้งใน พื้นที่เดียวกัน  และมีแนวโน้มที่จะปลูกเพื่อการค้ามากขึ้น

            ฝิ่นเป็นสารประกอบชนิดหนึ่ง ซึ่งได้จากยางของผลฝิ่น ในเนื้อฝิ่นมีสารเคมีผสมอยู่มากมาย ซึ่งประกอบด้วย โปรตีน เกลือแร่ ยางและกรดอินทรีย์เป็นแอลคะลอยด์ (Alkaloid) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้ฝิ่นกลายเป็นสารเสพติดให้โทษที่ร้ายแรง  แอลคะลอยด์ในฝิ่นแบ่งแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ
            ประเภทที่ 1 ออกฤทธิ์ทำให้เกิดอาการมึนเมา และเป็นยาเสพติดให้โทษโดยตรง แอลคะลอยด์ประเภทนี้ทางเภสัชวิทยา  ถือว่าเป็นยาทำให้นอนหลับ (Hypnotic) แอลคะลอยด์ที่เป็นสารเสพติดซึ่งออกฤทธิ์ตัวสำคัญที่สุดในฝิ่น คือ มอร์ฟีน (Morphine)
            ประเภทที่ 2 ออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อเรียบหย่อนคลายตัว ซึ่งในทางเภสัชวิทยาถือว่า แอลคะลอยด์ในฝิ่นประเภทนี้ไม่เป็นสารเสพติด แต่มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อของร่างกายหย่อนคลายตัว ซึ่งมีปาปาเวอร์รีน (Papaverine) เป็นตัวสำคัญ

<< Go Back