<< Go Back

กีฬาไทย
            กีฬาไทยมีกำเนิดจากการละเล่นพื้นเมืองในเทศกาลต่าง ๆ เมื่อว่างจากการศึกสงคราม ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมอย่าง เป็นทางการตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตั้ง "สมาคมกีฬาสยาม" วันที่ 5 มกราคม 2475 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย พระยาภิรมย์ภักดีเป็นนายก สมาคมคนแรก กีฬาที่จัดแข่งขันเป็นประจำ คือ ว่าว ตะกร้อ และหมากรุกไทย
            พ.ศ. 2475 – 2480 นายยิ้ม ศรีพงษ์ เป็นนายกสมาคมกีฬาสยามคนที่ 2 มีการแข่งขันกีฬาหมากรุก ว่าว ตะกร้อวงเล็ก ตะกร้อ วงใหญ่ ตะกร้อธง ตะกร้อข้ามตาข่าย และตะกร้อลอดบ่วง หลวงมงคลแมน (สังข์ บูรณะศิริ) คือ ผู้ประดิษฐ์ห่วงตะกร้อที่ใช้กันมา จนถึงปัจจุบัน
           พ.ศ. 2480 – 2484 นาวาเอกหลวงศุภชลาศัย ร.น. ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งวงการพลศึกษาของเมืองไทย เป็นนายกสมาคม กีฬาสยาม คนที่ 3 
           พ.ศ. 2487 ประเทศสยามเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทย จึงเปลี่ยนชื่อเป็นสมาคมกีฬาไทย
           พ.ศ. 2487 – 2490 พระยาจินดารักษ์ เป็นนายกสมาคม คนที่ 4 
           พ.ศ. 2490 – 2498 พันเอกหลวงรณสิทธิ์พิชัย เป็นนายกสมาคม คนที่ 5 วันที่ 18 เมษายน 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับสมาคมกีฬาไทยไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์
           พ.ศ. 2508 เป็นสมาชิกของสหพันธ์กีฬาแห่งเอเซีย (Association Sepak Takraw Federation of Asia)

            กีฬาไทยจัดเป็นศิลปวัฒนธรรมไทยแขนงหนึ่งที่มีเอกลักษณ์ มีความงดงามและทรงคุณค่า ซึ่งบรรพบุรุษได้ค้นคิด สืบสาน ถ่ายทอดและพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ การเล่นกีฬานอกนจากจะช่วยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ สร้างความแข็งแรงและ ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บแล้วกีฬาหลายประเภทยังช่วยให้ผู้เล่นได้ฝึกฝนสมาธิ มีความคิดสร้างสรรค์ มีไหวพริบปฎิภานรู้จักแก้ ปัญหาเฉพาะหน้าสามารถหลบหลีกคู่ต่อสู้ได้ กีฬาบางชนิดใช้ผู้เล่นเป็นหมู่คณะทำให้ผู้เล่นรู้จักมีความรักความสามัคคี ความ รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันตลอดจนเป็นคนมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ และรู้อภัย

            กีฬาไทยที่บรรพชนไทยค้นคิด และถ่ายทอดมาสู่ลูกหลาน บางชนิดกลายเป็นตำนานและความทรงจำ และบางชนิดยังคงมี การเล่นกันอยู่แม้ว่าจะถูกปรับเปลี่ยนไปให้ทันยุคสมัยก็ตาม แต่ด้วยความสำนึกของความเป็นไทยเราควรร่วมกันสนับสนุนและ ร่วมส่งเสริมภูมิปัญญากีฬาไทย ให้อนุชนรุ่นหลังได้รู้จักและร่วมกันอนุรักษ์ต่อไป

ที่มา : http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/chanthaburi/prisan_c/sport/story.htm
ที่มา : http://www.baanjomyut.com/library/2549/thai_sport/
<< Go Back