1. พลังงานทดแทน หมายถึงอะไร |
|
1. น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากหิน |
|
2. พลังงานที่นำมาใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิง
|
|
3. พลังงานที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
|
|
4. พลังงานที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ |
|
2. ข้อใดคือพลังงานสิ้นเปลือง |
|
1. ถ่านหิน, ก๊าซธรรมชาติ, นิวเคลียร์ |
|
2. น้ำ, ก๊าซธรรมชาติ, นิวเคลียร์
|
|
3. แสงอาทิตย์, ลม, ชีวมวล
|
|
4. ไฮโดรเจน, ก๊าซธรรมชาติ, หินน้ำมัน |
|
3. ข้อใด คือ พลังงานหมุนเวียน |
|
1. ไฮโดรเจน, ก๊าซธรรมชาติ, หินน้ำมัน |
|
2. น้ำ, ก๊าซธรรมชาติ, นิวเคลียร์
|
|
3. แสงอาทิตย์, ลม, ชีวมวล
|
|
4. ถ่านหิน, ก๊าซธรรมชาติ, นิวเคลียร์ |
|
4. ข้อใดเป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่ใหญ่ที่สุด และมีปริมาณมากที่สุด
|
|
1. นิวเคลียร์
|
|
2. น้ำ |
|
3. แสงอาทิตย์
|
|
4. ไฮโดรเจน |
|
5. ข้อใดเป็นพลังงานทดแทนที่ใช้เชื้อเพลิงน้อยที่สุด แต่ให้พลังงานความร้อนออกมามากที่สุด |
|
1. ชีวมวล
|
|
2. นิวเคลียร์
|
|
3. แสงอาทิตย์
|
|
4. ไฮโดรเจน |
|
6. การเปลี่ยนรูปพลังงานลมเป็นพลังงานไฟฟ้า ต้องอาศัยอุปกรณ์ใดในการเปลี่ยนรูปพลังงาน |
|
1. เทอร์โมมิเตอร์
|
|
2. มอเตอร์
|
|
3. อินเวอร์เตอร์
|
|
4. ไดนาโม |
|
7. การเชื่อมต่อระบบโซล่าเซลล์ แผงโซล่าเซลล์ ทำหน้าที่อะไร |
|
1. เปลี่ยนรูปพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า
|
|
2. เก็บประจุไฟฟ้า
|
|
3. ชาร์ตแบตเตอรี
|
|
4. ดูดรังสีดวงอาทิตย์ |
|
8. การเชื่อมต่อระบบโซล่าเซลล์ ตัวเก็บประจุไฟฟ้า คืออุปกรณ์ใด |
|
1. อินเวอร์เตอร์
|
|
2. สายไฟ |
|
3. ดวงอาทิตย์
|
|
4. แบตเตอรี |
|
9. พลังงานในข้อใดที่ไม่ใช่พลังงานที่ถูกปล่อยออกมาจากกระบวนการทางนิวเคลียร์ |
|
1. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
2. พลังงานความร้อน |
|
3. พลังงานแสง
|
|
4. พลังงานไฟฟ้า |
|
10. การอาบกัมมันตภาพรังสีแก่เมล็ดพันธุ์พืช เพื่อทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของสิ่งใด
|
|
1. โครโมโซมในเมล็ด
|
|
2. ขนาดของเมล็ด |
|
3. สีของเมล็ด |
|
4. ระยะเวลาการงอก |
|
11. ข้อใดเป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์
|
|
1. ปฏิกิริยาลูกโซ่ และปฏิกิริยาห่วงโซ่
|
|
2. ปฏิกิริยาฟิชชั่น และปฏิกิริยาฟิวชั่น
|
|
3. ปฏิกิริยานิวเคลียร์1 และปฏิกิริยานิวเคลียร์2
|
|
4. ปฏิกิริยาธาตุหนัก และปฏิกิริยาธาตุเบา |
|
12. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับปฏิกิริยาฟิชชัน
|
|
1. เกิดจากการใช้อนุภาคนิวตรอนหรืออนุภาคอื่นยิงไปที่นิวเคลียสของธาตุหนัก
|
|
2. ปฏิกิริยานิวเคลียร์ ซึ่งเกิดจากนิวเคลียสธาตุเบามา หลอมรวมกันเป็นนิวเคลียร์ที่หนักกว่า
|
|
3. เกิดจากการใช้อนุภาคนิวตรอนหรืออนุภาคอื่นยิงไปที่นิวเคลียสของธาตุเบา
|
|
4. ปฏิกิริยานิวเคลียร์ ซึ่งเกิดจากนิวเคลียสธาตุหนักกว่า หลอมรวมกันเป็นนิวเคลียร์ที่เบากว่า |
|
13. ปฏิกิริยาฟิวชั่น (fusion) คือ |
|
1. เกิดจากการใช้อนุภาคนิวตรอนหรืออนุภาคอื่นยิงไปที่นิวเคลียสของธาตุหนัก
|
|
2. ปฏิกิริยานิวเคลียร์ซึ่งเกิดจากนิวเคลียสธาตุเบามา หลอมรวมกันเป็นนิวเคลียร์ที่หนักกว่า
|
|
3. เกิดจากการใช้อนุภาคนิวตรอนหรืออนุภาคอื่นยิงไปที่นิวเคลียสของธาตุเบา
|
|
4. ปฏิกิริยานิวเคลียร์ซึ่งเกิดจากนิวเคลียสธาตุหนักกว่า หลอมรวมกันเป็นนิวเคลียร์ที่เบากว่า |
|
14. ขบวนการฟิชชั่น นิวตรอนอิสระนี้จะไปชนนิวเคลียสอื่นของยูเรเนียมก็จะเกิดฟิชชั่นต่อไปเรียกว่า
|
|
1. ปฏิกิริยาฟิชชั่น
|
|
2. ปฏิกิริยาฟังชั่น
|
|
3. ปฏิกิริยาลูกโซ่ |
|
4. ปฏิกิริยาฟิวชั่น |
|
15. การนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ประโยชน์จะใช้อยู่ 2 ทาง คือ
|
|
1. ใช้ในการทำลาย ซึ่งมีอำนาจมหาศาล เช่น การขุดคลอง การระเบิดหิน การทหาร
|
|
2. ได้จากฟิวชั่นในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ซึ่งจะใช้ประโยชน์ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า
|
|
3. ใช้ในการสร้างสิ่งที่ก่อในเกิดประโยชน์ด้านกีฬา
|
|
4. ถูกทั้งข้อ 1 และ 2 |
|
16. ข้อควรระวังในการใช้พลังงานนิวเคลียร์ |
|
1. รังสีที่แผ่ออกมาจากธาตุกัมมันตรังสี เมื่อผ่านสิ่งมีชีวิตทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต
|
|
2. รังสีที่แผ่ออกมาจะทำให้สิ่งที่เป็นโลหะหลอมเหลวเกิดการเปลี่ยนแปลง
|
|
3. การทิ้งกากสารที่มีกัมมันตรังสี ถ้าทำไม่ระมัดระวังจะทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตในบริเวณนั้น |
|
4. ถูกทั้งข้อ 1 และ 3 |
|
17. การป้องกันในการใช้พลังงานนิวเคลียร์ข้อใดผิด
|
|
1. ให้ใช้ในระยะเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้
|
|
2. ให้อยู่ห่างแหล่งกำเนิดหรือบริเวณธาตุกัมมันตรังสีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
|
|
3. เนื่องจากขณะที่เกิดพลังงานนิวเคลียร์ จะมีรังสีออกมาด้วย ไม่ควรใช้เครื่องกำบัง
|
|
4. การทำงานเกี่ยวกับนิวเคลียร์ต้องมีเครื่องมือวัดรังสีเพื่อรู้ปริมาณรังสี เพื่อป้องกันอันตรายจากรังสี |
|
18. ข้อใดต่อไปนี้เป็นการกำจัดกากกัมมันตรังสีที่ดีที่สุด |
|
1. เร่งให้เกิดการสลายตัวเร็วขึ้นโดยใช้ความดันสูงมากๆ |
|
2. เผาให้สลายตัวในอุณหภูมิสูง
|
|
3. ใช้ปฎิกิริยาเคมีเปลี่ยนให้เป็นสารประกอบอื่น
|
|
4. ใช้คอนกรีตตรึงให้แน่นแล้วฝังกลบใต้ภูเขา |
|
19. รังสีใดที่นิยมใช้ในการอาบรังสีผลไม้ |
|
1. รังสีเอกซ์
|
|
2. รังสีแกมมา |
|
3. รังสีบีตา
|
|
4. รังสีแอลฟา |
|
20. ข้อใดเป็นเซลล์ไฟฟ้าปฐมภูมิ |
|
1. แบตเตอรีโทรศัพท์มือถือ
|
|
2. แบตเตอรีรถยนต์ |
|
3. ถ่านไฟฉาย
|
|
4. ถ่านชาร์จ |
|