ไพโรมิเตอร์ (pyrometer) เป็นเครื่องมือวัดอุณหภูมิ (temperature measurement) แบบไม่สัมผัส นิยมใช้งานในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานในย่านอุณหภูมิที่สูงกว่าย่านการวัด (range) ของเทอร์โมคัปเปิล (thermocouple) หรือการใช้งานในสภาวะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องมือวัด (instrument) ได้ เช่น สภาวะแวดล้อมที่มีการกัดกร่อน เป็นต้น นอกจากนี้ยังนิยมใช้วัดอุณหภูมิของวัตถุที่มีการเคลื่อนที่ เช่น การวัดอุณหภูมิของวัตถุที่วางอยู่บนสายพานลำเลียง (conveyor) ในกระบวนการผลิต เป็นต้น โดยทั่วไปนิยมใช้สำหรับการวัดอุณหภูมิเพื่อการจดบันทึกข้อมูล (monitoring processes and operations) มากกว่าการวัดเพื่อควบคุมกระบวนการ (control processes and operations)
![]() ![]()
![]()
ประเภทที่ 1 ไพโรมิเตอร์ชนิดวัดรังสีความร้อนในช่วงความยาวคลื่นที่ตามนุษย์สามารถมองเห็น ได้แก่ ไพโรมิเตอร์ชนิดเชิงแสงหรือชนิดเทียบความสว่างของไส้หลอด (optical pyrometer) ไพโรมิเตอร์ประเภทนี้เหมาะสำหรับการวัดอุณหภูมิวัตถุเฉพาะในย่านการวัดที่อุณหภูมิสูง ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามทฤษฎีของการแผ่รังสีความร้อน (thermal radiation) ของวัตถุใด ๆ โดยวัตถุดำ (blackbody) จะเริ่มแผ่รังสีความร้อนในช่วงความยาวคลื่นที่อยู่ในย่านการมองเห็นที่อุณหภูมิสูงกว่า 800 K (527°C) และวัตถุจริง (real body) จะเริ่มแผ่รังสีความร้อนในช่วงความยาวคลื่นที่อยู่ในย่านการมองเห็นที่อุณหภูมิสูงกว่า 973 K (700°C) ไพโรมิเตอร์ชนิดเชิงแสงหรือชนิดเทียบความสว่างของไส้หลอด (optical pyrometer) ที่มาภาพ : http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/6814/pyrometer-ไพโรมิเตอร์
ประเภทที่ 2 ไพโรมิเตอร์ชนิดอาศัยการแผ่รังสี ได้แก่ ไพโรมิเตอร์ชนิดอาศัยการแผ่รังสีความร้อน (thermal radiation pyrometer) และ ไพโรมิเตอร์ชนิดอาศัยการแผ่รังสีอินฟราเรด (infrared pyrometer) > ไพโรมิเตอร์ชนิดอาศัยการแผ่รังสีความร้อน (thermal radiation pyrometer) ที่มาภาพ : http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/6814/pyrometer-ไพโรมิเตอร์
ไพโรมิเตอร์ชนิดอาศัยการแผ่รังสีอินฟราเรด (infrared pyrometer) ที่มาภาพ : http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/6814/pyrometer-ไพโรมิเตอร์
ที่มาเนื้อหา : http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/6814/pyrometer-ไพโรมิเตอร์ การวัดและเครื่องมือวัด ประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร (นวภัทรา และ ทวีพล , 2555) |