<< Go Back
                    มาร์โคโปโล (Marco Polo) ในประเทศจีน มาร์โคโปโลเป็นลูกพ่อค้าชาวเมืองเวนิส และได้ออกเดินทางทางบกไปถึงประเทศจีนกับบิดา และลุงของเขา เมื่อ ค.ศ. 1271 ซึ่งเป็นการเดินทางผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ ในประวัติการค้นคว้าสำรวจครั้งหนึ่ง ในสมัยนั้นบิดาและลุงของมาร์โคโปโลได้เข้าไปอยู่ในประเทศจีนในฐานะพ่อค้า เมื่อกลับมาถึงเวนิสและจะออกเดินทางไปอีกได้นำเอามาร์โคโปโลลูกชายอายุ 17 ปีไปด้วย พร้อมกับหนังสือของพระสังฆราชไปยังพระเจ้ากุบไลข่าน จักรพรรดิแห่งประเทศจีน ตลอดระยะทาง มาร์โคโปโลได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขาได้พบเห็นไว้หมดสิ้น เช่น เรื่องราวเกี่ยวกับนครแบกแดด ศูนย์การค้าของพวกอาหรับ การเดินทางข้ามเทือกเขาฮินดูกูส และทะเลทรายเป็นต้น การเดินทางครั้งนั้นกินเวลา 3 ปี จึงไปถึงราชสำนักของพระเจ้ากุบไลข่าน ในประเทศจีน มาร์โคโปโลได้พบว่าเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ เขาได้เห็นชาวเมืองใช้กระดาษแทนเงินตรา ใช้ถ่านหินก่อไฟผิง หุงต้มและใช้ในกิจการอื่น ๆ ตลอดจนได้พบเห็นการแกะตัวพิมพ์ด้วยไม้ และการพิมพ์ตัวหนังสือลงบนกระดาษ ฯลฯ อันเป็นความรู้ใหม่ของชาวยุโรป เช่น มาร์โคโปโล สมัยนั้น เมื่อไปอยู่ในราชสำนักนาน ๆ ไม่ช้า มาร์โคโปโลก็เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าข่าน เขาได้ถูกส่งให้ไปดูแลบ้านเมืองต่าง ๆ ของประเทศจีน และออกไปยังดินแดนของพม่า ธิเบต ขึ้นไปทางเหนือถึงดินแดนไซบีเรีย ได้เห็นสุนัขลากเลื่อน หมีขาว และชาวพื้นเมืองซึ่งนั่งบนเลื่อนน้ำแข็ง มีกวางเรนเดียร์ลากไปมา การเดินทางท่องเที่ยวของมาร์โคโปโลไปยังที่ต่าง ๆ โดยอาศัยความคุ้มครองของจักรพรรดิข่าน ทำให้เขาได้ทราบเรื่องราวของอาเซียตะวันออก ได้ดียิ่งกว่าชาวพื้นเมืองเสียอีก ทางประวัติศาสตร์จึงยกย่องว่า มาร์โคโปโลเป็นนักสำรวจค้นคว้าคนสำคัญคนหนึ่ง


แผนที่เส้นทางการเดินทางของมาร์โค โปโล

ประวัติมาร์โค โปโล
                     เกิดเมื่อปี 1254 ที่เมืองเวนิส บิดาชื่อ นิโคโล โปโล (Nicolo Polo) เป็นพ่อค้าที่ชอบออกไปค้าขายในต่างแดน ตอนที่มาร์โค โปโลเกิด พ่อและอา มัฟเฟโอ โปโล (Maffeo Polo) ได้ออกเดินทางไปค้าขายในแถบคาบสมุทรไครเมียร์ ทางตอนใต้ของประเทศยูเครนในปัจจุบัน ซึ่งในสมัยนั้นอยู่ในเขตอิทธิพลของมองโกลที่กำลังแผ่อำนาจจากเอเชียกลางมายังทวีปยุโรป ในปี 1260 ได้เกิดสงครามระหว่างหลานของเจงกีสข่าน 2 คน ทำให้พ่อและอาของมาร์โค โปโล ต้องเดินทางหลบสงครามไปที่เมืองบูคารา (Bukhara) ในประเทศอุซเบกิซสถานในปัจจุบัน ณ ที่นั้น พ่อและอาของมาร์โค โปโลได้พบกับทูตของกุบไลข่าน (Kublai Khan) (ค.ศ. 1214-1294) ซึ่งได้ชักชวนให้บุคคลทั้งสอง เดินทางไปเข้าเฝ้ากุบไลข่าน ผู้ซึ่งมีความปรารถนาที่จะรู้จักกับชาวละตินและศึกษาวัฒนธรรมของชาวละติน นิโคโล โปโลและน้องชายได้ตอบตกลงและได้เดินทางไปกรุงปักกิ่ง (หรือที่สมัยนั้นเรียกว่า คัมบาลุก "Cambaluc") ทั้งสองได้เข้าเฝ้ากุบไลข่านในปี ค.ศ. 1266 มองโกลได้เข้าปกครองประเทศจีนและสถาปนาราชวงศ์หยวนขึ้นปกครองในปี ค.ศ. 1264 กุบไลข่านเป็นพระราชนัดดาของเจงกีสข่าน ในสมัยนั้นอาณาจักรของมองโกลได้แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล กุบไลข่านเป็นผู้ที่สนใจใฝ่รู้เรื่องราวและความเชื่อของชาวยุโรปมาก จึงได้ขอให้นิโคโล โปโล และน้องชายเดินทางกลับไปยังบ้านเกิด เพื่อเข้าเฝ้าพระสันตปาปา และขอให้ส่งผู้มีความรู้ 100 คน และน้ำมันศักดิ์สิทธิ์จากวิหาร The Holy Sepulchre ในนครเยรูซาเลมกลับมาถวายพระองค์


มาร์โค โปโล : นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล

บันทึกการเดินทางของมาร์โค โปโล (Marco Polo)
                     ซึ่งเล่าเรื่องราวที่น่าทึ่งและน่าสนใจมากมายในดินแดน ซึ่งยังไม่เคยมีชาวตะวันตกคนใดเคยไปมาก่อน เป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักเดินทางทุกยุคทุกสมัยมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 700 ปี สนใจที่จะออกเดินทางไปยังดินแดนอันไกลโพ้นเพื่อค้นพบสิ่งแปลกใหม่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ซึ่งค้นพบทวีปอเมริกาในศตวรรษที่ 15 ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการอ่านบันทึกการเดินทางของมาร์โค โปโล ผู้ซึ่งสมควรได้รับการยกย่องว่า เป็นนักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล


ที่มา : http://pilaiwan-dpu02.blogspot.com/2012/05/blog-post.html
           http://tspecial.blogspot.com/2010/11/blog-post_10.html

<< Go Back