<< Go Back

          ไมเคิลเเอนเจลโล คือประติมากร จิตรกร สถาปนิก เเละกวีผู้ยิ่งใหญ่ ในยุคทองของสมัยเราเนสซองส์ผลงานส่วนใหญ่ของไมเคิลเเอน เจลโลจะเป็นประติมากรรม เเละจิตรกรรมเป็นส่วนใหญ่สังเกตุจากการที่ได้รับว่าจ้างจากองค์พระสันตะปาปาให้สร้างงานประติมากรรม เเละจิตรกรรมมากมาย

          ไมเคิลเเอนเจลโลได้รับสาส์นมอบหมายหน้าที่ในการออกเเบบก่อสร้างสุสานของพระสันตะปาปาจูลิสอุสที่2 เขาเสนอโครงการ อย่างใหญ่โตมโหฬาร กำหนดให้สุสานมีรูปทรงคล้านวิหารขนาดเล็ก ติดตั้งอยู่ภายในโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ มีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปคน ประดับสุสาน40รูป เมื่อพระสันตะปาปาได้ทราบถึงโครงการจึงอนุมัติทันที เเต่ทว่าไมเคิลเเอนเจลโลดำเนินการก่อสร้างอยู่นั้น ก็เกิด อุปสรรคมากมายเช่นในฤดูน้ำหลากกิดอุทกภัยร้ายเเรงเป็นอุปสรรคในการลำเลียงหินอ่อนชนิดดีที่สั่งซื้อมาจากเมืองคาร์รารา การดำ เนินการต้องหยุดชะงัก อีกทั้งฐานะทางการเงินขององค์สันตะปาปาเริ่มฝืดเคื่อง มีข่าวลือเรื่องสงครามครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้นอีกหลายเเห่ง  ทั้งทรงไม่มีเวลาสนใจการก่อสร้างเป็นเหตุให้ไมเคิลเเอนเจลโลกับองค์สันตะปาปามีปากเสียงกันบ่อยครั้งทำให้ ไมเคิลเเอนเจลโลตัดสิน ใจลอบหลบหนีออกจากรุงโรม

          พระสันตะปาปาจุลูอุสที่2ทรงมีอำนาจลงโทษไมเคิลเเอนเจลโลได้อย่างเต็มที่ เเต่พระองค์เห็นความสามารถของเขาพระองค์ทรง โปรดประทานอภัยโทษเเละเรียกไมเคิลเเอนเจลโลกลับมากรุงโรมเเต่ไม่ได้ให่ทำสุสานของพระองค์ต่อ เเต่กลับเสนองานวาดภาพประดับ เพดานในหอสวดมนต์ซิสติเนให้เเก่ไมเคิลเเอนเจลโลอีก ซึ่งเป็นงานจิตรกรรมที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน

          เมื่องานวาดภาพเพดานในซิสติเนสำเร็จลงไมเคิลเเอนเจลโลหวนกัลบไปสลักหินอ่อนศาสดาพยากรณ์ เเละรูปทาสที่ทำค้างไว้ต่อ เมื่อคราวที่ทิ้งงานสร้างสุสานสันตะปาปาจูลิอุสที่2 สุสานเเห่งนี้นับเป็นงานที่ยืดเยื้อ สร้างความยุ่งยากให้ไมเคิลเเอนเจลโลตลอดชีวิต ครั้งองค์สันตะปาปาจูลิอุสที่2 สิ้นพระชนม์ลงเรื่องราวก็ไม่ได้หมดลงอำนาจสัญญาว่าจ้างยังคงอยู่ มีการเซ้นสัญญาหลายต่อหลายครั้ง เเม้กระทั่งตัวไมเคิลเเอนเจลโลถึงเเก่กกรรมไปเเล้ว ผลงานก็ยังคงไม่เสร็จสมบรูณ์ตามเเบที่ร่างไว้

           เมื่อสันตะปาปาจูลิอุสที่2สิ้นพระชนม์ เจ้าชายโลเร็นโช เด เมดิชี เป็นผู้รับตำเเหน่งเเทน ทรงพระนามว่า พระสันตะปาปาเลโอที่10   พระองค์ทรงว่าจ้างให้ไมเคิลเเอนเจลโลออกเเบบก่อสร้างต่อเติมตกเเต่งหอสวดมนต์ในวัดซานโลเร็นโซ ซึ่งเปรียบเหมือนวัด ประจำ ตระกูลเมดิชีในเมืองฟลอเรนซ์ อาคารต่างๆของวัดนี้ได้ออกเเบบไว้นานเเล้ว เเต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ หอสวดมนต์แห่งใหม่ที่ไมเคิล เเอนเจลโลออกเเบบรับหน้าที่ออกเเบบ เป็นสถานที่สำหรับถวายสักการบูชาเเด่พระผู้เป็นเจ้าเเละเป็นสุสานสำหรับบุคคลสำคัญของ ตระกูลเมดิชี สัญญาถูกระงับชั่วคราวเพราะสถานการณ์ทางการเมือง คนในตระกูลเมดิชีถูกขับไล่ ด้วยความนิยมชอบการปกครอง เเบบสาธารณรัฐ ไมเคิลเเอนเจลโลจึงขันอาสารับหน้าที่ปกป้องเมืองได้รับตำเเหน่องเป็นผู้อำนวยการออกเเบบก่อสร้างป้อมปราการ ที่ซานมินิอาโต เเต่ก่อทัพฝ่ายสาธารณรัฐมีกำลังน้อยกว่าทำให้พ่ายเเพ้อย่าสิ้นเชิง ไมเคิลเเอนเจลโลจึงถูกกวาดล้างจับกุมในฐานะผูฝัก ใฝ่เข้ากับ ฝ่ายศัตรูย่อมมีความผิด เขาจึงลี้ภัย ไปเมืองเวนิชชั่วคราว  เนื่องด้วยความสามารถเป็นที่ประจักษ์ สันตะปาปาคาเมนต์ที่ 7 กลับ ขึ้นมาอำนาจอีก จึงประมานอภัยโทษ เสนอให้กลับมาสร้างวัดซานโลเร็นโซต่อไปตามเดิม ความดีเด่นของผลงานชุดนี้ไม่ได้เฉพาะ เจาะจงที่ตัวอาคารหรือประติมากรรมเท่านั้น หากเเต่มีคุณค่าทางศิลปกรรมด้วยการประกอบให้ทุกสิ่งอย่างมีความสัมพันะกันทั้งหมด นับตั้งเเต่อาคาร เเสง การตกเเต่งภายใน และความมีเอกภาพระหว่างสถาปัตยกรรมกับประติมากรรมได้อย่างดีเลิศ 

    ไมเคิลเเอนเจลโลในวัยชราอายุ71ปีเขาได้รับทาบทามให้ดำรงตำเเหน่งหัวหน้าสถาปนิกควบคุมการก่อสร้างโบสถ์เซนปีเตอร์อันยิ่งใหญ่ ประวัติการก่อสร้างโบสถ์เซนปีเตอร์มีประวัติมานานพอสมควรเริ่มต้นโดยสถาปนิกบรามันเต ผู้ออกเเบบเเละวางแผนตั้งเเต่ ค.ศ.1506 บรามันเตถึงเเก่กรรมในปีค.ศ.1514 การก่อสร้างยังคงดำเนินต่อไปโดยสถาปนิกผู้เคยร่วมงานกับบรามันเต ก่อนขึ้นดำรงตำเเหน่องเเทน เช่นจูลิอาโน ดา ซานแกลโล ,ฟรา จิโอคอนโด และราฟาเอล ครั้นเมื่อราฟาเอลถึงเเก่กรรม สันตะปาปาปอลที่3 จึงมอบหมายให้ไมเคิลเเอน เจลโลรับช่วงต่อ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาเเสดงความสามารถทางสถาปัตยกรรม  โดยการออกเเบบก่อสร้างวังฟาร์เนเช และออกเเบบ ปรับปรุง จัตุรัสแคปิโตลิเน เพื่อใช้ประดิษฐานงานให้เขาออกเเบบก่อสร้างหอสมุดลอเร็นเซียนอีกด้วย

          งานทั้งหมดของเขามีความใหญ่โตๆไม่เท่ากับโบสถ์เซนปีเตอร์ เขาได้เริ่มสร้างหุ่นจำลองของโบสถ์ด้วยไม้ เพื่อใช้เป็นต้นเเบบถาวร เเละเผื่อสำหรับเหตุการณ์ข้างหน้าเนื่องด้วยมีอายุมากเเล้ว ไมเคิลเเอนเจลโลได้เเก้ไขบางอย่างจากเเบบเดิมที่บรามันเตได้ออกเเบบไว้ เขายัง คงสงวนแผนผังกากบาทเเบบกรีกไว้ เนื่องจากสถาปัตยกรรมของบรูเนลเลสกีกับอัลเเบร์ตีในเรื่องของการวางเเผนผังอาคารเด่นสำคัญ อยู่ตรงกลาง กำหนดสร้างโดมใหญ่เป็นศูนย์กลาง ซึ่งได้รับเเรงบันดาลใจจากรูปทรงโครงสร้างของโดมวัดประจำเมืองฟลอเรนซ์ กับโดม ของเทวาลัยเเพนธาออน อันเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเยี่ยมของโรมัน

          ไมเคิลเเอนเจลโลกำหนดให้โดมมีขนาดใหญ่ ซึ่งมิได้มุ่งหวังเพียงเเค่ต้องการให้ได้พื้นที่ภายในกล้างขวางเท่านั้น หากภาพประกอบ ด้วยความงามอีกด้วย ภายในโดมต้องใช้บรรยากาศทางศาสนา  จะต้องมีบริเวณที่กว้างขางเพียงพอต่อการก่อสร้างเพิ่มเติมภายหลัง รูปทรง ภายนอกมีความสง่างาม แสดงความั่นคง อันาจบรมี มีความเป็นเอกภาพ ความสงบ ความหวัง เหนือเหตุกาณ์เเปรปรวนทั้งหมดของสังคม มนุษย์

    โดมของโบสถ์เซนปีเตอร์ มีขนาดใหญ่มาก นับเป็นอาคารที่มีความสูง เเละใหญที่สุดในโลกในเวลานั้น เขาสามารถเเก้ปัญหาจาก ผลงานการสร้างโดม โดยเขาสร้างเสาขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง60ฟุต จำนวน4ต้น เพื่อใช้เป็นโครงสร้างรับน้ำหนักของโดมโดยเฉพาะ เเม้ไมเคิลเเอนเจลโลได้ถึงเเก่กรรมก่อการสร้างโบสถ์จะเสร็จสมบูรณ์ เเละมีจิอาโคโม เดลลา ปอร์ตา เเละโดเมนิโค ฟอนตานาได้ควบคุม การก่อสร้างตามเเบบหุ่นจำลองไท่เขาทำไว้ทุกประการ

ที่มา - https://sites.google.com/site/museumrenaissance/mikheilexen-cello-hrux-mi-ke-lan-celo-michelangelo-buonarroti-

<< Go Back