<< Go Back

ทองคำ (Gold) เป็นโลหะมีค่าที่อยู่ในกลุ่มโลหะมีค่าประเภทเดียวกับเงิน แพลทินัม แพลเลเดียม โรเดียม อิริเดียมและออสเมียม ซึ่งทองคำนั้นเกิดโดยธรรมชาติเป็นแร่ธาตุตามธรรมชาติ มีความคงทนต่อการเกิดปฏิกิริยาสูงจึงทนต่อการผุกร่อนไม่เกิดการออกซิไดซ์กับอากาศจึงสามารถเก็บรักษา โดยคงรูปลักษณ์ดั้งเดิมอันสวยงามไว้ได้นานไม่หมองจึงนิยมนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับ วัสดุทางทันตกรรมบางส่วนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และทองคำ (99.99%) ก็ใช้เป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศอีกด้วย

ทองคำ (Gold) มีสัญลักษณ์ทางเคมี คือ Au ซึ่งมาจากคำว่า Aurum ในภาษากรีกมีน้ำหนักอะตอม 196.966 amuมีความถ่วงจำเพาะ 19.33 g/cc มีจุดหลอมเหลว 1,064 องศาเซลเซียส จุดเดือด 2,970 องศาเซลเซียส เป็นโลหะอ่อนจึงสามารถตีเป็นแผ่นบางๆ หรือดึงเป็นเส้นได้โดยทองคำบริสุทธิ์หนัก 1 ออนซ์ สามารถดึงเป็นเส้นลวดได้ยาวถึง 35 ไมล์ มีความแข็งอยู่ที่ประมาณ 2.25 และสำหรับประเทศไทยซึ่งนิยมใช้หน่วยทอง คำเป็นบาทนั้นจะมีค่าเท่ากับ 15.2 กรัม

เห็นได้ว่าทองคำมีค่าความแข็งค่อนข้างน้อย ด้วยเหตุนี้มนุษย์จึงนำโลหะชนิดอื่น เข้ามาผสมกับทองคำเพื่อเพิ่มความแข็งให้มากขึ้น และนอกจากความแข็ง ซึ่งเพิ่มขึ้นแล้วนั้น สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมานั่นก็คื อสีสันอันหลากหลายของทองคำนั่นเอง ได้แก่

 

 

ทองกะรัต

ที่มา : http://www.weloveshopping.com/template/e1/showproduct.php?pid=10580170&shopid=22655

 

"ทองกะรัต" (Karat Gold) ได้จากการผสมทองคำบริสุทธิ์กับเงินและทองแดง ซึ่งได้ค่าความบริสุทธิ์ของทองคำที่ผสมออกมาเป็นค่ากะรัต หรือ K เครื่องประดับทองส่วนมากก็มักจะนิยมสีทองกะรัตหรือสีทองอร่ามนี้ ซึ่งเป็นสีมาตรฐานที่สากลนิยมแต่ความเข้มของสีทองนั้นก็มักจะแตกต่างกันไปตามความนิยมของผู้บริโภคในประเทศ

 

 

ทองสีชมพู

ที่มา : http://www.quinl.com/สินค้า/รับขึ้นตัวเรือนทองสีชมพู

+เครื่องประดับมงคล+17594.html

 

"ทองสีชมพู" (Pink Gold) ซึ่งได้จากการผสมทองคำบริสุทธิ์กับเงินและทองแดง โดยเพิ่มค่าสัดส่วนของทองแดงให้มากขึ้น จึงทำให้ได้สีชมพูในต่างประเทศยังเรียกทองชนิดนี้ว่า Rose Gold ซึ่งนิยมใช้สำหรับเครื่องประดับแฟชั่นที่ให้ความรู้สึกโรแมนติกและอ่อนหวาน

 

 

ทองคำขาว

ที่มา : http://lastberry.myfri3nd.com/blog/2009/03/16/entry-1

 

"ทองขาว" ซึ่งท่านผู้อ่านส่วนใหญ่มักสับสนกับ "ทองคำขาว" เพราะชื่อค่อนข้างคล้ายกัน ทองขาวนั้นได้จากการผสมทองคำบริสุทธิ์กับพัลลาเดียม นิกเกิลและสังกะสี ส่วนทองคำขาว (แพลทินัม) นั้นเป็นธาตุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมีลักษณะเช่นเดียวกับทองคำ แต่แพลทินัมนี้จะมีความแวววาวสูงและสามารถคงความงดงามได้ตลอดไปทำให้มีราคาสูงกว่าทองขาวและทองทั่วไปเกือบ 3 เท่าตัว

นอกจากสีของทองคำที่กล่าวมาแล้วนั้นทองคำยังมีสีอื่นๆ อีกมากมายโดยปัจจุบันก็มีการคิดค้นสีของทองคำเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งนั้นเกิดมาจากแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงไปประกอบกับราคาของทองคำหลากสีที่ถีบตัวสูงมากขึ้นและไอเดียของเหล่าดีไซเนอร์ทำให้ปัจจุบันแฟชั่นหรือรูปแบบของทองคำเปลี่ยนแปลงไป

 

ขอบคุณเว็บไซต์ : http://www.suwannakornshop.com/index.php?option=com_content&view

                            =article&id=43:knowledgegold&catid=12:knowledgediamond-gold&Itemid=5

 

 

 

<< Go Back