<< Go Back

ประโยคในภาษาไทย

ประโยค คือ ถ้อยคำที่มีความเกี่ยวข้องกันถูกต้องตามระเบียบของภาษาและมีเนื้อความบริบูรณ์ ประกอบด้วยภาคประธานและภาคแสดง
1. องค์ประกอบของประโยค คำที่นำมาเรียงกันจะเป็นประโยคได้ก็ต่อเมื่อมีภาคประธานและภาคแสดง นอกจากนี้ประโยคยังมีองค์ประกอบอื่นๆอีก

เช่น แมวเล่นในสวน แยกได้ แมว(ประธาน) เล่น(อกรรมกริยา) ในสวน(ขยายกริยา)
อารีขายผลไม้ทุกวัน แยกได้ อารี(ประธาน) ขาย(สกรรมกริยา) ผลไม้(กรรม) ทุกวัน(ขยายกริยา)
ภารโรงสมนึกเป็นคนดี แยกได้ ภารโรง(ประธาน) สมนึก(ขยายประธาน) เป็น(วิกตรรถกริยา) คนดี(ขยายกริยา)
2. รูปประโยคหลักของไทย มี 4 แบบ
2.1 ประโยคประธาน หมายถึงประโยคที่เอาผู้กระทำขึ้นต้นประโยค เช่น แดงเตะตะกร้อ
2.2 ประโยคกรรม หมายถึง ประโยคที่เอาผู้กระทำขึ้นต้นประโยค เช่น นักเรียนถูกครูตำหนิ
2.3 ประโยคกริยา หมายถึง ประโยคที่เอากริยา เกิด มี ปรากฏ ขึ้นต้นประโยค เช่น มีข้าวในนา
2.4 ประโยคการิต หมายถึง ประธานของประโยคประโยคกรรมมีผู้รับใช้แทรกเข้ามา เช่น คุณแม่ให้ฉันรดน้ำต้นไม้ (ประธานมีผู้รับใช้) หนังสือถูกครูให้นักเรียนอ่าน(กรรมมีผู้รับใช้) เพื่อนให้ฉันทำการบ้าน(ประธานมีผู้รับใช้)
3. การจำแนกประโยคตามเจตนาผู้ส่งสาร มี 4 ชนิด
3.1 ประโยคบอกเล่าหรือประโยคแจ้งให้ทราบ เช่น ธรรมะย่อมชนะอธรรม
3.2 ประโยคคำถาม จะมีคำที่แสดงคำถามกำกับอยู่ 2 ลักษณะ คือ ต้องการคำตอบที่เป็นเนื้อความ และต้องการเพียงการตอบรับหรือปฏิเสธเท่านั้น
3.3 ประโยคปฏิเสธ จะมีคำว่า ไม่ ประกอบอยู่เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความหมายตรงกันข้ามกับประโยคบอกเล่า เช่น นิธิโรจน์ไม่ขี้เกียจเรียนหนังสือ วันนาไม่เคยกินส้มตำ
3.4 ประโยคคำสั่งและขอร้อง เป็นประโยคที่มีลักษณะสั่งให้ทำหรือขอร้องให้ปฏิบัติ ซึ่งสามารถละประธานไว้ได้ เพราะผู้ส่งสารและผู้รับสารต่างเข้าใจและทราบว่าสั่งหรือขอร้องใคร เช่น ห้ามเดินลัดสนาม โปรดทำความเคาระประธานในพิธี กรุณาถอดรองเท้าก่อนเข้าห้องเรียน
4. ชนิดของประโยค ชนิดของประโยคในภาษาไทยแบ่งตามลักษณะ เป็น 3 ชนิด คือ
4.1 ประโยคความเดียว(เอกรรถประโยค) คือ ประโยคที่มีใจความสำคัญเพียงหนึ่ง คือ มีประธานตัวเดียว กริยาสำคัญเพียงตัวเดียวและอาจมีกรรมหรือไม่มีก็ได้ โดยมีโครงสร้าง ประธาน+กริยา+(บทกรรม) เช่น เราเดินอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ซื้อปลาจากแหล่งเพาะพันธุ์ การเดินเป็นการออกกำลังกาย โปรดนั่งเงียบ เมื่อคืนนี้พายุพัดบ้านพัง
4.2 ประโยคความรวม(อเนกรรถประโยค) คือ ประโยคที่เกิดจากประโยคความเดียว ตั้งแต่ 2 ประโยคขึ้นไปมารวมกันโดยมีสันธานเป็นตัวเชื่อม โดยมีโครงสร้าง ประโยคความเดียว+สันธาน+ประโยคความเดียว ประโยคความรวมแบ่งเป็น 5 ชนิด
4.2.1 ประโยคความรวมเชื่อมความคล้อยตามกัน(อันวยาเนกรรถประโยค) ได้แก่ และ และแล้ว แล้วจึง...ก็ แล้ว...ก็ ทั้ง...และ กับ ครั้น...จึง เมื่อ....ก็
4.2.2 ประโยคความรวมเชื่อมความขัดแย้งกัน(พยติเรกาเนกรรถประโยค) ได้แก่ แต่ แต่ทว่า กว่า...ก็ แม้ว่า... แต่...ก็ ถึง....ก็
4.2.3 ประโยคความรวมเชื่อมความให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง(วิกัลป์ปาเนกรรถประโยค) ได้แก่ หรือ หรือไม่ก็ มิฉะนั้น ไม่เช่นนั้น ไม่...ก็
4.2.4 ประโยคความรวมเชื่อมความเป็นเหตุเป็นผล(เหตวาเนกรรถประโยค) ได้แก่ จึง ดังนั้น...จึง ฉะนั้น...จึง เพราะฉะนั้น...จึง
4.3 ประโยคความซ้อน (สังกรประโยค) คือประโยคที่ประกอบด้วยประโยคหลักและประโยคย่อยซึ่งเป็นประโยคซ้อนอยู่ในประโยคหลัก โดยมีสันธานเป็นตัวเชื่อม
องค์ประกอบของประโยคความซ้อนมี 2 ชนิด คือ ประโยคหลัก(มุขยประโยค) คือ ประโยคที่เป็นใจความสำคัญของประโยคใหญ่ และประโยคย่อย(อนุประโยค) คือ ประโยคที่ทำหน้าที่ช่วยประโยคหลักให้มีใจความชัดเจนสมบูรณ์มากขึ้น โดยประโยคย่อยแบ่งเป็น 3 ชนิด
4.3.1 นามานุประโยค คือประโยคย่อยทำหน้าที่เหมือนคำนาม โดยจะทำหน้าที่เป็นบทประธาน บทกรรม และส่วนเติมเต็มของประโยคหลัก
4.3.2 คุณานุประโยค คือ ประโยคย่อยทำหน้าที่เหมือนวิเศษณ์ โดยจะทำหน้าที่ขยายคำนามหรือสรรพนาม ในส่วนที่เป็นประธานหรือเป็นกรรมของประโยคหลัก สันธานเชื่อมประโยค(เป็นประพันธสรรพนาม) คือ ที่ ซึ่ง อัน ผู้ ทำหน้าที่เชื่อมประโยคและแทนคำนามหรือสรรพนามที่อยู่ข้างหน้า

ปากกาที่วางบนโต๊ะซื้อมาจากญี่ปุ่น ประโยคหลัก ปากกาซื้อมาจากญี่ปุ่น
  สันธาน ที่ (ประพันธสรรพนาม แทน ปากกา)
ประโยคย่อย ปากกาวางบนโต๊ะ(ทำหน้าที่ขยาย
คำนาม "ปากกา" ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานของประโยคหลัก
4.3.3 วิเศษณานุประโยค คือ ประโยคย่อยทำหนาที่เหมือนวิเศษณ์ โดยจะทำหน้าที่ขยายกริยาหรือวิเศษณ์ ในส่วนที่เป็นกริยาหรือวิเศษณ์ของประโยคหลัก สันธานเชื่อมประโยคได้แก่(ประพันธวิเศษณ์)ได้แก่ ที่ เมื่อ ระหว่างที่ ตั้งแต่ จนกระทั่ง เพราะ ตาม ราวกับ ขณะที่ โดย เป็นต้น ทำหน้าที่เชื่อมประโยค เช่น
เขามาเมื่อฉันหลับ ประโยคหลัก เขามา
  สันธาน เมื่อ
  ประโยคย่อย ฉันหลับ(ขยาย "มา")

 

 



https://sites.google.com/site/khwamruphasathai/home/prayokh

<< Go Back