

ภาษาไพทอน (Python programming language) เป็นภาษาโปรแกรมภาษาระดับสูงแบบอินเทอร์พรีเตอร์ (Interperter) ที่สร้างโดย กีโด ฟาน รอสซัม (Guido van Rossum) ในปีพ.ศ. 2533 ปัจจุบันดูแลโดย มูลนิธิซอฟต์แวร์ไพทอน ( Python Software Foundation (PSF)) ซึ่งภาษาไพทอนสามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็น Unix, Linux, Windows NT, Windows 2000, Windows 95/98/MEXP หรือ OS/X โดย Version ล่าสุดของ Python ตอนนี้คือ 3.4.2

ไพทอนเป็นภาษาสคริปต์ ทำให้ใช้เวลาในการเขียนและคอมไพล์ไม่มาก ทำให้เหมาะกับงานด้านการดูแลระบบ (System administration) เป็นอย่างยิ่ง ได้มีการสนับสนุนภาษาไพทอนโดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการยูนิกซ์, ลินุกซ์ และสามารถติดตั้งให้ทำงานเป็นภาษาสคริปต์ของวินโดวส์ ผ่านระบบ Windows Script Host ได้อีกด้วย และ Python เองก็ได้ถูกนำมาพัฒนา Web application อย่างแพร่หลาย ซึ่งมี Framework สำหรับทำเว็บของ Python ที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ Django

ภาษาไพทอนจะคล้ายกับภาษา C มาก โดยจะมีโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน มีไวยากรณ์ที่ได้กำจัดการ ใช้สัญลักษณ์ ที่ใช้ในการแบ่งบล็อกของโปรแกรม และใช้การย่อหน้าแทน ทำให้สามารถอ่านโปรแกรมที่เขียนได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีการสนับสนุนการเขียน docstring ซึ่งเป็นข้อความสั้นๆ ที่ใช้อธิบายการทำงานของฟังก์ชัน, คลาส, และโมดูลอีกด้วย

ไพทอนเป็นภาษากาว (Glue Language) ได้อย่างดี เนื่องจากสามารถเรียกใช้ภาษาโปรแกรมอื่นๆ ได้หลายภาษา ทำให้เหมาะที่จะใช้เขียนเพื่อประสานงานโปรแกรมที่เขียนในภาษาต่างกันได้

การเขียนโปรแกรมในภาษาไพทอนโดยใช้ไลบรารีต่าง ๆ เป็นการลดภาระของโปรแกรมเมอร์ได้เป็นอย่างดี ทำให้โปรแกรมเมอร์ไม่ต้องเสียเวลากับการเขียนคำสั่งที่ซ้ำๆ เช่น การแสดงผลข้อมูลออกสู่หน้าจอ หรือการรับค่าต่าง ๆ ไพทอนมีชุดไลบรารีมาตรฐานมาให้ตั้งแต่ติดตั้งอินเตอร์พรีเตอร์
นอกจากนั้นยังมีผู้พัฒนาจากทั่วโลกดำเนินการพัฒนาไลบรารีซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ โดยจะเผยแพร่ในรูปแบบของแพ็คเกจต่าง ๆ ซึ่งสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้อีกด้วย สุดท้ายคือ ภาษาไพทอนทำงานเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับภาษา script ด้วยกัน เช่น php, jsp, asp จะพูดว่า ไพทอนเขียนน้อยได้งานมากและทำงานเร็ว

การเลือกภาษาสำหรับการเขียนโปรแกรม แค่นึกชื่อไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นมือใหม่ หรือโปรแกรมเมอร์ที่กำลังมองหาภาษาใหม่ๆ มาฝึกหัดซ้อมมือเพื่อนำไปใช้งาน หลายคนก็มักจะมีแต่เครื่องหมายต่างๆ ในสมอง เช่น เครื่องหมายคำถามสำหรับการตัดสินใจเลือกภาษา เพื่อนำมาศึกษาและใช้งานเมื่อเลือกภาษามาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะใช้งานได้จริงไหม และอายุของภาษาจะได้รับความนิยม หรือจะยุติ เมื่อใดต่อมาความยากง่ายในการเรียนรู้สอดคล้องกับระยะเวลาที่ต้องอ่านต้องฝึกความสามารถของการเขียนโปรแกรม โดยทั่วไป หรือต้องใช้เทคนิคการเขียนโปรแกรมที่มีความซับซ้อนด้วยเงื่อนไข ของลักษณะงานที่ถูกกำหนดขึ้นทั้งหมดนี้ ผู้พัฒนาโปรแกรม จะไปค้นคว้าหาคำตอบ เพื่อนำมาสร้างหรือใช้ในการเขียนโปรแกรมจากที่ไหน ผู้เขียนหมายถึงตัวภาษาที่เราเลิกเป็นที่นิยมแพร่หลายมากไหม แหล่งค้นคว้าจากตำรับตำราหรือทางด้านโลกอินเตอร์เน็ตมีให้ค้นคว้าถาม-ตอบบอกเทคนิคต่างๆ หรือแหล่งดาวน์โหลดตัวอย่าง Source Code ซึ่งในตัวอย่างจะแนะแนวการเขียน และแสดงผลลัพธ์ที่เกิดจากการทำงานของโปรแกรม ทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจและพิจารณาการนำตัวอย่างโปรแกรม ไปประยุกต์ให้ตรงกับงานที่ผู้เรียนกำลังต้องการนำไปใช้งาน ต่อมาก็เครื่องหมายตกใจ ! ที่เกิดขึ้นในสมอง จะเริ่มที่ภาษาไหน เริ่มต้นอย่างไร อ่านและฝึกเท่าไหร่จึงจะเขียนเป็น จะต้องอ่านหนังสือเล่มไหน อ่านอีกกี่เล่ม !!! คิดแล้วคงเหนื่อยใจพอสมควร ทั้งนี้ยังไม่รวมการเขียนโปรแกรมตามเทคโนโลยีชนิดต่างๆ เช่น การสร้างโปรแกรมให้ทำงานแบบ Application สำหรับติดตั้งใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ หรือสร้างเป็นแบบ web Application ที่เหมาะต่อการติดตามหรือใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถใช้งานที่ไหนก็ได้ ขอให้มีอินเตอร์เน็ตเข้าถึงก็พอใช้ได้ หรือจะฝังเข้าไปกับเครื่องโทรศัพท์ประเภท Mobile Phone ที่มีหลากหลายยี่ห้อแต่ละยี่ห้อก็มีระบบปฏิบัติการไม่จำกันอีก ที่เล่าสู่กันฟัง ก็น่าสนุกสำหรับการเลือกศึกษาการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาต่างๆ เพื่อจะนำไปใช้พัฒนาการสร้างงานตามความต้องการ และเหมาะสมต่อการใช้งาน และสอดคล้องกับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในปัจจุบัน
ด้วยปัจจุบันเรามีระบบปฏิบัติการที่หลากหลายสำหรับใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีของฮาร์ดแวร์ เช่น ระบบปฏิบัติการ Mac OS ของ Macintosh ระบบปฏิบัติการ Windows ระบบปฏิบัติการ Linux บนเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ประเภทเซิร์ฟเวอร์หลัก แม้กระทั่งเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่บางยี่ห้อ ที่ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวก็มีมากขึ้นตามลำดับ หรือแม้แต่ระบบปฏิบัติการโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือของ Nokia ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Symbiam หรือระบบปฏิบัติการ Android ที่เริ่มใช้ในมือถือซัมซุงเป็นต้น
จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีของระบบปฏิบัติการได้รับการปรับปรุง และพัฒนาให้มีความเหมาะสมกับเทคโนโลยีของฮาร์ดแวร์ในปัจจุบัน หากเราต้องทำการพัฒนาโปรแกรมสำหรับใช้ร่วมกับระบบปฏิบัติการเหล่านี้ ต้องใช้ความรู้ในการเขียนโปรแกรมอย่างน้อยก็ 2 ถึง 3 ภาษา เป็นอย่างต่ำแน่ๆ python นับเป็นภาษาหนึ่งที่น่าสนใจ ต่อการนำมาศึกษาการเขียนโปรแกรม เพื่อพัฒนางานตามต้องการภายใต้ระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย โดยที่ภาษา python เป็น open source แบบฟรีไลเซเซนส์ และด้วยโครงสร้างของภาษาไพธอนยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานพัฒนา library ใหม่เพิ่มขึ้นด้วยภาษา ของ python, C++, Java ตระกูล Dot Net และอีกหลายๆ ภาษา
ก่อนอื่นขอแนะนำผู้สร้างภาษา python ให้กับท่านผู้อ่านได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามเขาคือ Guido Van Rossum บุคคลผู้ให้ทางเลือกงานทางการเขียนโปรแกรมให้กับพวกเรา ปีที่ python เปิดตัวคือ พ.ศ.2534 (1991) เราควรยกย่องบุคคลเหล่านี้ครับ ข่าวสร้างเพื่อที่จะนำมาใช้งานแล้วยังเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้ใช้ภาษา python แบบฟรีไลเซเซนส์ (Free License) อีกทั้งได้ทุนสนับสนุนการเงินจากบริษัทยักษ์ใหญ่เช่น Google, eBay เป็นต้น ให้กับสมาคมกลุ่ม python เพื่อพัฒนาภาษา python ในเวอร์ชั่นใหม่ปัจจุบัน Guido Van Rossum ได้เข้าร่วมทำงานกับบริษัท google โดยทาง Google ก็ได้ประกาศสนับสนุน python ให้เป็นภาษาสำหรับการพัฒนาร่วมกับระบบปฏิบัติการ Android ของ Google นั้นแสดงให้เห็นถึงการตอบสนองของตลาด python ที่มีโอกาสเติบโตในตลาดอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมบันเทิงโดยเฉพาะซอฟต์แวร์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก, เสียง, Visual effects สำหรับภาพยนตร์ก็ได้นำภาษา python มาช่วยในการพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทนี้ร่วมกับภาษา C หรือ C++, อุตสาหกรรมเกี่ยวกับ Enterprise Resour ce Planning (ERP), อุตสาหกรรมเกี่ยวกับ Customer Relationship Man agement (CRM) อุตสาหกรรมเกมส์, อุตสาหกรรมมือถือ เช่น โนเกีย ก็สามารถใช้ Python พัฒนาโปรแกรมอุตสาหกรรมการบิน เช่น ซอฟต์แวร์เกี่ยวกับ Plainview, อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเภท Content Management System เป็นต้น
ลักษณะโดยรวมของภาษา Python ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เรียนรู้ได้ไม่ยาก รูปแบบของตำสั่งก็คล้ายๆ กับภาษาเบสิก ชนิดของตัวแปรก็ทำการกำหนดและสร้างมาใช้งานได้ด้วยวิธีง่ายๆ การกำหนด เงื่อนไขหรือการวนลูปก็มีคำสั่งไม่มากจนเกินไป แต่สามารถเขียนใช้งานได้เท่ากับภาษาอื่นๆ โดยพื้นฐานการเขียนโปรแกรม Python จะทำงานด้วยตัวแปลภาษาแบบอินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreter) ผลลัพธ์จากการทดสอบคำสั่งโดยพื้นฐานจะเป็นลักษณะโหมดข้อความ (Text Mode) แต่ถ้าหากต้องการใช้เป็น Graphic User Interface (GUI) หรือแบบมีจอภาพสวย มีช่องสำหรับกรอกข้อมูล, มีปุ่มให้กดทำการจัดเก็บข้อมูลพิมพ์ออกรายงาน ก็สามารถใช้คำสั่ง หรือเครื่องมือเสริมของ Python มาทำการจัดสร้างได้เช่นกัน ข้อเด่นของภาษา Python หรือกลุ่มคำสั่งที่ Python สร้างเสร็จไว้ใช้งานแล้ว เราสามารถนำไปใช้ งานต่างระบบปฏิบัติการได้ด้วย
ภาษา Python สามารถที่จะเขียนให้เป็นโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object Oriented Programming) ได้หรือเปล่า ? คำถามนี้น่าสนใจต่อผู้ที่กำลังศึกษาภาษา Python ถ้าภาษานี้สามารถรองรับการเขียนโปรแกรมแบบ OOP ได้ ก็น่าจะเป็นแรงจูงใจให้กับผู้ที่สนใจที่จะนำ Python ไปพัฒนางานต่างๆ ตามต้องการ คำตอบก็คือ ภาษา Python รองรับการพัฒนาโปรแกรมแบบ OOP หรือเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้างปกติทั่วไปก็ได้ ส่วนเทคนิคการเขียนโปรแกรม OOP จะครอบคลุมตามหลักการของ OOP ชนิด 100% หรือไม่ ก็ได้ตรวจสอบขีดความสามารถในการเขียนของ Python แต่ละเวอร์ชั่น


|