จงทำเครื่องหมาย x ลงบนคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
1. ข้อใดมีลักษณะของการสกัดกั้นที่ถูกต้องที่สุด
1. ผู้เล่นฝ่ายรับยืนเท้านำเท้าตาม |
2. ก้าวเท้าไปข้างซ้ายหรือขวาตามต้องการ |
ใช้ลำตัวเข้ากีดขวางทางวิ่งคู่ต่อสู้เข้าแย่งบอล |
4. ใช้เท้าแยกออกกว้างกว่าปกติ ย่อเข่าลง เพื่อให้มือสกัดกั้น |
2. ประโยชน์ของการสกัดกั้น หมายถึงข้อใดถูกที่สุด
1. การเคลื่อนที่ไปยังฝ่ายเดียวกัน |
2. เคลื่อนไหวลูกบอลไม่ให้ถูกแย่ง |
3. ช่วยบังฝ่ายเดียวกันให้เล่นบอลได้ |
ป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามแย่งบอลได้ |
3. ข้อใดมีผลต่อการแย่งบอลมากที่สุด
1. การมองบอล |
2. การมองคน |
3. การรักษาพื้นที่ |
การหาจังหวะ |
4. ลักษณะใดไม่ถูกต้องในการแย่งลูกบอล
1. ดึงบอลมาจากฝ่ายตรงข้าม |
2. กระโดดปัดบอลขณะยิงประตู |
3. ปัดบอลขณะบอลส่งระหว่างผู้เล่น |
ดันคู่ต่อสู้แล้วกระโดดเข้าแย่งบอล |
5. พื้นที่ที่สำคัญที่สุดในการสกัดกั้นฝ่ายตรงข้ามหลังจากยิงประตูไม่สำเร็จ
พื้นที่สามเหลี่ยมใต้ห่วง |
2. ครึ่งวงกลมเหนือเขตโทษ |
3. เขตทำประตูในเขตพื้นที่ 2 คะแนน |
4. การทำประตูในเขตพื้นที่ 3 คะแนน |
6. ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการแย่งบอล ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ยืนด้านหลังฝ่ายตรงข้าม |
2. ยืนด้านหน้าฝ่ายตรงข้าม |
ยืนระหว่างบอลและฝ่ายตรงข้าม |
4. ในตำแหน่งที่คาดว่าบอลจะกระดอนไป ณ จุดนั้น |
7. ข้อใดที่ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงการแย่งลูกบอล
1. การตีลูกบอล |
2. ตำแหน่งการยืน |
3. การป้องกันลูกบอลหลังจากแย่งได้ |
หลังจากยิงประตูไม่ต้องแย่งลูกบอลอีก |
8. ข้อใดผิดรูปแบบของการแย่งลูกบอล
1. การตัดแย่งลูกบอล |
2. การแย่งลูกกระทบแป้น |
3. การแย่งลูกกลางอากาศ |
การส่งลูกจากคนหนึ่งไปยังคนหนึ่ง |
9. การ Blocking out หมายถึงอะไร
1. การปัดลูกบอล |
2. การเคลื่อนที่ตามบอล |
3. การหลบหลีกคนป้องกัน |
การป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้เข้าไปแย่งบอล |
10. ความคล่องแคล่ว ว่องไว และหาจังหวะในการเข้าติดตามลูกบอล คือลักษณะของข้อใด
1. การกำบัง |
2. การสกัดกั้น |
การแย่งลูกบอล |
4. การหลอกล่อ |
11. การกำบังที่มีประสิทธิภาพคือลักษณะใด
การกำบังพร้อมกันทั้งคนที่ครอบครองและไม่ครอบครองบอล |
2. การยืนขวางทิศทางการวิ่ง |
3. ยืนได้ตามความเหมาะสม |
4. การยืนชิดฝ่ายตรงข้าม |
12. ข้อใดไม่ได้อยู่ในประเภทของการตัด
1. Flash cut |
2. Front cut |
3. Button - hook |
Back screen |
13. ข้อใดอยู่ในประเภทของการกำบัง
1. Button - hook |
2. Jam - down, V - cut |
3. Jam - down, back cut |
On - ball, front screen |
14. การป้องกันแบบตั้งรับ คือ การป้องกันแบบใด
1. การป้องกันแบบตัวต่อตัว |
2. การป้องกันแบบลักไก่ |
3. การป้องกันแบบรุกเร็ว |
การป้องกันแบบโซน |
15. ข้อใด หมายถึง ผู้เล่นฝ่ายรับหรือฝ่ายป้องกัน
ผู้เล่นที่ไม่ได้ครอบครองลูกบอล |
2. ผู้เล่นที่ได้ครอบครองลูกบอล |
3. ผู้ที่ถือลูกบอลไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดของสนาม |
4. ผู้เล่นที่นำลูกบอลไปโยนลงห่วงประตูของฝ่ายตรงข้าม |
16. ข้อใด ไม่ใช่ หลักทั่วไปในการรับหรือป้องกันแบบตั้งโซน
1. ผู้เล่นต้องคอยสกัดฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา |
2. ผู้เล่นทุกคนต้องเคลื่อนที่ในเขตรับผิดชอบของตน |
3. ผู้เล่นทุกคนต้องใช้สายตาจับจ้องที่ลูกบอลตลอดเวลา |
ผู้เล่นต้องพยายามหาที่ว่างให้ตนเองหลุดพ้นจากการควบคุม |
17. ฝ่ายรับหรือฝ่ายป้องกัน ควรต้องยกมือป้องกันฝ่ายรุกหรือฝ่ายโจมตีตลอดเวลา เพื่ออะไร
1. เพื่อให้สัญญาณกับคู่ต่อสู้ |
เพื่อรบกวนสมาธิของฝ่ายตรงข้าม |
3. เพื่อให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามส่งลูกได้สะดวก |
4. เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามมองเห็นห่วงประตูได้ชัดเจนขึ้น |
18. ปัจจัยหลัก 3 ประการ ในการเป็นผู้เล่นฝ่ายรับหรือฝ่ายป้องกัน คือ ข้อใด
1. การยืน การวิ่ง ตาจ้องมองลูกบอล |
2. การยืน การวิ่ง การเคลื่อนไหวของเท้า |
3. การยืน การกระโดด การเคลื่อนไหวของเท้า |
การยืน การก้าวเท้าในการเคลื่อนไหว ตำแหน่งในการยืน |
19. ตำแหน่งในการยืนป้องกันฝ่ายรุกหรือฝ่ายโจมตี ควรยืนในลักษณะใด
แนวตรงระหว่างฝ่ายรุกและห่วงประตู |
2. แนวเส้นโค้งระหว่างฝ่ายรุกและห่วงประตู |
3. เอียง 45 องศา ระหว่างฝ่ายรุกและห่วงประตู |
4. เอียง 80 องศา ระหว่างฝ่ายรุกและห่วงประตู |
20. การป้องกันแบบโซนถ้าขาดความสัมพันธ์ในทีมจะเกิดผลอย่างไร
1. จะทำให้ฝ่ายรุกขาดสมาธิในการเล่น |
2. ทำให้ทีมสามารถป้องกันฝ่ายรุกได้อย่างเหนียวแน่น |
3. ทำให้สามารถแปลงสภาพจากฝ่ายรับเป็นฝ่ายรุกได้ง่ายขึ้น |
จะเป็นการเปิดช่องว่างให้ฝ่ายรุกหรือฝ่ายโจมตีเข้ายิงประตูได้ |


|